ในศาสตร์การดูดวงที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วนวิธี ขึ้นอยู่กับวิธีที่ถนัดของผู้ดูดวงแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งความแม่นยำก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งผมก็ยืนยันว่า ทุกศาสตร์มีความแม่นยำ อยู่ทีว่าผู้ทำนาย จะสามารถเข้าใจวิธีการและคำแปลออกมาให้ผู้รับการพยากรณ์เข้าใจได้หรือไม่
การทำนายทายทัก เรื่องในอดีตมักจะดูแม่นยำ แต่ เรื่องในอนาคต ไม่แน่เสมอไป
ผมขอกล่าวว่า ประโยคนี้ค่อนข้างจะเป็นจริง เพราะเราเชื่อเสมอว่า ดวงคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่จะเปลี่ยนได้มาก หรือ น้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
คำว่าการดูดวงนี่จากการศึกษาของเรา พบว่า มีอยู่ 3 ลักษณะ
1 ใช้พลังงานสิ่งลี้ลับ อ้างอิง เช่น จิตสัมผัส ตาทิพย์ สแกนกรรม ฯลฯ
2 ใช้ดวงดาว วันเดือนปีเกิด อ้างอิง เช่น การดูดวงทั้งไทย จีน หรือ ตะวันตก ฯลฯ
3 ใช้เครื่องมืออ้างอิง เช่น ไพ่ ลูกเต๋า ฯลฯ
ลักษณะที่ 1 กลุ่ม “พลังงานสิ่งลี้ลับ”
ว่ากันว่า คนที่สามารถดูดวงได้จากวิธีนี้ มักเป็นประเภทที่ “มีของ” สามารถติดต่อกับสิ่งลี้ลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งแต่ละคน ก็จะมีการติดต่อที่แตกต่างกันออกไป ซึ่ง สามารถเป็นได้ด้วย ญานทัศนะ ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือนักพรต นักปฎิบัติสมาธิที่เก่ง ๆ ก็สามารถเข้าถึงวิธีนี้ได้
ซึ่งเป็นวิธีที่ยากต่อการอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคลที่มีต่อผุ้ทำนายนั้น
เป็นวิธีที่แม่นยำราวกับตาเห็น แม่นยำมากที่สุด แต่ก็มีคนที่สามารถทำนายแบบนี้ได้น้อยมาก ๆ ถึงมีก็จะคิวยาวมาก ๆ
ลักษณะที่ 2 กลุ่ม “ใช้ดวงดาว” หรือที่เรียกว่า “โหราศาสตร์”
เป็นวิธีที่เชื่อว่า ชีวิตคนเรา สอดคล้องกับลักษณะการดำเนินของดวงดาว จากหลักการรังสี Cosmic ถ้าดวงดาวดำเนินไปแบบไหน ชีวิตเรา ก็สามารถสะท้อนออกมา จากการคำนวนการเดินทางของดวงดาวได้ เหมือนกับการพยาการณ์อากาศ ที่เราสามารถรู้ล่วงหน้าได้จากเหตุการณ์ การจดบันทึกทางสถิติ ซึ่งก็สามารถแบ่งออกเป็นโหราศาสตร์ได้อีกหลายอย่างเช่น โหราศาสตร์ไทย จีน อินเดีย ฮินดู พราพารมณ์ ตะวันตก ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่ใช้ ดวงดาวมาเป็นจุดอ้างอิง กับ วันที่เราเกิด ซึ่งเราสามารถรู้เหตุการณ์ทุกอย่างจาก แผนผังโหราศาสตร์ที่ถูกคำนวนขึ้น
ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถอธิบายด้วยหลักการ วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ได้ และ AstroMatrix ก็ใช้หลักการนี้เกิน 90%
แต่ผู้พยากรณ์ก็ต้องศึกษา และ ทำความเข้าใจ รวมถึงสะสมประสบการณ์ในการทำนาย เพราะแม้แต่การเรียนวิชาจากครูคนเดียวกัน แต่ก็ยังสามารถแปลความหมายไม่เหมือนกันได้
ลักษณะกลุ่มที่ 3 “ใช้เครื่องมือ” ซึ่งไม่ถือว่าเป็น โหราศาสตร์ แต่เป็นการ “ทำนาย”
เป็นวิธีที่เชื่อในความ Synchronize กับธรรมชาติ ถ้าเราอยากจะรู้คำตอบอะไร คำตอบนั่นมักจะมาอยู่ในรูปแบบที่กำลังทำนายนั่น ซึ่งหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อ้างอิงยาก เช่น การดูดวงด้วยไพ่ การดูโหงวเฮ้ง การดูตัวเลข หรือทอยลูกเต๋า เป็นต้น
แต่ก็ยังสามารถพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำ ขึ้นอยู่กับคนที่พยากรณ์อีกเช่นกัน ลักษณะจะเป็นการถามคำถามแล้วหาคำตอบจากเครื่องมือนั้น ๆ แล้วนำมาแปลเป็นภาษาให้คนที่ได้รับการพยากรณ์เข้าใจอีกที ซึ่ง AstroMatrix ก็ใช้วิธีนี้ประมาณ 10%
สุดท้าย อย่างที่ผมบอกว่า ทุกศาสตร์มีความแม่นยำ ขึ้นอยู่กับผู้ทำนาย และ ความละเอียดในการทำนายว่าจะออกมาได้เห็นภาพชัดเจนได้ขนาดไหน